การเลือกระบบเบรกที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับรถยนต์ที่มีสไตล์การขับขี่แบบไดนามิก สามารถติดตั้งได้ทั้งดิสก์เบรกและดรัมเบรกที่ล้อหลังของรถ ซึ่งแต่ละล้อมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง
คุณสมบัติของดิสก์เบรก
หลักการทำงานของดิสก์เบรกนั้นใช้การแคลมป์สองทางของดิสก์โลหะที่หมุนได้ซึ่งจับจ้องไปที่ดุมล้อ ข้อดีของล้อดิสก์คือความทนทานสูงและตอบสนองแทบจะในทันที แรงกดของล้อจะเท่ากันตลอดระยะเวลาเบรก ซึ่งรับรองได้โดยลมอิสระ ในเวลาเดียวกัน รับประกันการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพของแผ่นดิสก์และการกำจัดก๊าซที่เกิดขึ้นในระหว่างการเสียดสี ข้อเสียเปรียบหลักของดิสก์เบรกคือความไวสูงต่อสิ่งสกปรกและความเค้นทางกล ดิสก์แบบบางอาจเสียหายได้แม้จะรับน้ำหนักมาก ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ติดตั้งระบบเบรกคุณภาพต่ำประเภทนี้
คุณสมบัติของระบบดรัมเบรก
ดรัมเบรกได้รับการปกป้องจากสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และความชื้น แต่มีข้อเสีย เนื่องจากพื้นที่สัมผัสสูงและแรงกดต่ำ ดรัมเบรกจึงร้อนขึ้นค่อนข้างเร็ว สิ่งนี้นำไปสู่การขยายตัวของโลหะและความดันลดลง เอฟเฟกต์ความร้อนอย่างรวดเร็วได้รับการปรับปรุงโดยระบบปิดซึ่งป้องกันการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ก๊าซไอเสียและอนุภาคขนาดเล็กของแผ่นอิเล็กโทรดที่สึกหรอสะสมในช่องด้านในของดรัม ซึ่งอุดตันพื้นผิวเสียดทานและลดแรงเสียดทาน สิ่งนี้นำไปสู่ความจริงที่ว่าหลังจากการเบรกต่อเนื่องหลายครั้งด้วยความเร็วสูง ดรัมเบรกจะหยุดทำงาน
ทางเลือกของเบรกสำหรับล้อหลัง
สำหรับผู้ขับขี่ที่ชอบสไตล์การขับขี่แบบไดนามิก ควรติดตั้งดิสก์เบรกที่มีการระบายอากาศที่ล้อหลัง สิ่งนี้จะเกี่ยวข้องกับมลพิษที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะล้อหลังได้รับน้ำกระเซ็นและสิ่งสกปรกจากด้านหน้า ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการติดตั้งแผ่นกันโคลนและฝาครอบป้องกันที่ดี หรือโดยการติดตั้งจานเบรกแบบมีรูพรุน นอกจากนี้ ดิสก์เบรกหลังยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์ที่เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องบนถนนในพื้นที่ภูเขา เมื่อเบรกบนทางลาดยาว เบรกจะไม่ร้อนจัดและรองรับน้ำหนักได้ดี
ไม่ควรเปลี่ยนดรัมเบรกมาตรฐานเป็นดิสก์เบรกโดยไม่จำเป็น ในทางกลับกัน ดิสก์เบรกสามารถเปลี่ยนเป็นดรัมเบรกได้ หากผู้ขับขี่ไม่ชอบการขับขี่ด้วยความเร็วสูง และโอกาสที่การเปลี่ยนผ้าเบรกบ่อยขึ้นนั้นไม่ถือเป็นข้อโต้แย้งที่รุนแรง