จุดประสงค์ของแบตเตอรี่ในรถยนต์คือการสตาร์ทเครื่องยนต์และใช้เป็นแหล่งพลังงานฉุกเฉิน ด้วยการบำรุงรักษาที่เหมาะสม เครื่องนี้จะช่วยให้คุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
หากคุณติดตั้งหัวฉีดแล้ว ไม่ควรถอดแบตเตอรี่ออกในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ซึ่งอาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ หรือแม้กระทั่งไฟหมด ตรวจสอบแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอเพื่อหารอยรั่วของถัง
ขั้นตอนที่ 2
เช็ดแบตเตอรี่ด้วยผ้าแห้งสะอาดเพื่อขจัดความชื้นออกจากพื้นผิวและขจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นออกจากช่องระบายอากาศ ก่อนเดินทางไกล ให้ตรวจสอบว่าได้ใส่แบตเตอรี่เข้าที่อย่างแน่นหนาหรือไม่ เพราะการเคลื่อนตัวอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรภายในเครื่องได้
ขั้นตอนที่ 3
หากแบตเตอรี่สามารถซ่อมบำรุงได้ ให้วัดระดับอิเล็กโทรไลต์และความหนาแน่นเป็นประจำ โปรดจำไว้ว่าระดับนี้ควรอยู่ระหว่างรอยบากสูงสุดและต่ำสุด ซึ่งใช้กับกล่องแบตเตอรี่แบบโปร่งแสง หากจำเป็น ให้เติมน้ำกลั่นแล้วนำไปชาร์จ โดยให้ถอดออกจากรถแล้วต่อเข้ากับเครื่องชาร์จ จำไว้ว่าเวลาในการชาร์จโดยประมาณคือประมาณ 10 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 4
ตรวจสอบผู้ติดต่อของคุณอย่างระมัดระวัง หากขั้วเริ่มออกซิไดซ์ ให้ทำความสะอาดและหล่อลื่นด้วยสารพิเศษเพื่อป้องกันกระบวนการนี้ในอนาคต ให้ความสนใจกับสภาพของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและสตาร์ทเตอร์ด้วย เพราะหากอุปกรณ์เหล่านี้ทำงานผิดปกติ แบตเตอรี่ก็อาจมีการสึกหรออย่างรวดเร็วเช่นกัน
ขั้นตอนที่ 5
หากรถอยู่ในโรงรถในช่วงฤดูหนาว เป็นการดีกว่าที่จะถอดแบตเตอรี่ออกจากใต้ฝากระโปรงรถแล้ววางไว้ข้างๆ วิธีนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงความเสียหาย เนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆ จะประสบปัญหาเมื่ออิเล็กโทรไลต์รั่วไหล ล้างพื้นผิวของแบตเตอรี่ด้วยสารละลายโซดาไฟอุ่น จากนั้นล้างด้วยน้ำเย็นแล้วเช็ดให้แห้ง ถ้าเป็นไปได้ ให้รักษาพื้นผิวด้วยลมอัด